ตับแข็ง ตับอักเสบ โรคตับ ไวรัสตับบีและซี ดูแลด้วย Arshitong Gold นวัตกรรมสมุนไพร ผ่านงานวิจัยเหรียญทองระดับโลก

ท้องอืดท้องเฟ้อ

ตัวเหลืองและตาเหลือง

ท้องโตและบวม

ปวดท้องด้านขวาบน

บริเวณตับ คลำจะพบก้อนเนื้อ

อ่อนเพลียไม่มีแรง

น้ำหนักลด เป็นต้น

หากว่าพบมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนเพื่อขอคำปรึกษาและดูแลสุขภาพ

?พบกับท่านผู้ใช้สมุนไพร ชุดดูแลตับชุดนี้กันคะ

คุณ เฉลิม ปัททุม อายุ 49 ปี ชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ ส่งผลให้ท้องโตมากกว่าปกติ รู้สึกท้องบวมตลอดเวลา จึงได้ไปพบแพทย์และทำการตรวจที่โรงพยาบาลเมื่อปี 2563 พบว่าเป็นโรคตับแข็ง ระยะสุดท้าย คุณหมอแจ้งว่าสามารถรักษาได้ตามอาการเท่านั้นคะ

หลังจากนั้นจึงได้ทำการค้นคว้าหาแนวทางในการดูแลและรักษาโรคตับแข็ง จนกระทั่งได้พบ นวัตกรรมสมุนไพร ทางเลือก งานวิจัยของ ดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร เจ้าของรางวัลเหรียญทองระดับโลกถึง 22 รางวัล การันตี ทำให้เกิดความมั่นใจในผลิตภัณฑ์  จึงได้สอบถามและแนวทางในการรักษาตับแข็งในเวลาต่อมา

วิธีการและขั้นตอนการรักษาและดูแลโรคตับแข็ง

ของ ดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร มีวิธีการที่ไม่ซับซ้อน แต่เป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลกับคนที่เป็นโรคตับแข็ง ดูผลลัพธ์จากการวิจัย-จากผู้เป็นโรคตับแข็ง มีรายละเอียดการปฏิบัติดังนี้

A :  ทานสมุนไพรเข้มข้น " ชุดฟื้นฟูเร่งด่วน "

เบื้องต้นมาดูวิธีการรับประทานสมุนไพรอย่างไรให้ได้ผลมากที่สุด

•  มื้อเช้า : ทานก่อนอาหาร 20 นาที 
  • กรีนเคอมิน 2 แคปซูล
  • ไวเลอตอง 2 แคปซูล
  • โอลิซ่า คิวเทน 2 แคปซูล
  • อาชิตองโกล์ด 1.5 ฝา
  • สิงหโมรา 2 เม็ด

• มื้อเที่ยง : ทานก่อนอาหาร 20 นาที
  • กรีนเคอมิน 2 แคปซูล
  • ไวเลอตอง 2 แคปซูล
  • โอลิซ่า คิวเทน 2 แคปซูล
  • อาชิตองโกล์ด 1.5 ฝา
  • สิงหโมรา 2 เม็ด

•   มื้อเย็น : ทานก่อนอาหาร 20 นาที
  • กรีนเคอมิน 2 แคปซูล
  • ไวเลอตอง 2 แคปซูล
  • โอลิซ่า คิวเทน 2 แคปซูล
  • อาชิตองโกล์ด 1.5 ฝา
  • สิงหโมรา 2 เม็ด

• ก่อนนอน
  • ทานอาชิตอง โกล์ด 1.5 ฝา
  • โอลิซ่า คิวเทน 2 แคปซูล

หมายเหตุ : สำหรับท่านที่ต้องการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน สามารถทาน ไดเอทโปร เข้าไปเสริมเพิ่มเติมได้  มีคุณสมบัติ สามารถทานเข้าไปทดแทนมื้ออาหารได้ นอกจากนนี้ยังช่วยซ่อมแซมตับได้ดีด้วย

**** งด ทานของมันและทอดหรือทานเนื้อสัตว์ แต่สามารถทานปลาทดแทนได้ และนอกจากนี้ควรละเว้น ความเค็มจากเกลือหรือน้ำตาล และแป้งเป็นต้น **** 

B. ใช้เจลเย็นประคบรอบท้องคนไข้ที่เป็นตับแข็ง วันละ 3รอบ

วิธีการใช้เจลเย็น

นำชุดเจลเย็นมาพันรอบตัว ลงมาระดับสะดือ พันมาด้านข้างและวนไปด้านหลังรอบตัว หลังจากนั้นใช้ผ้ายางมารัดไว้ให้แน่น เพื่อให้ความเย็นไปช่วยฟื้นฟูตับ นอกจากนี้ยังช่วยให้ถุงน้ำดีและไตกลับมาทำงานได้ดียิ่งขึ้้นด้วย เมื่อประคบจนแผ่นเจลหายเย็นแล้ว พักเอาไว้ 15 นาที  แล้วนำแผ่นเจลมาพันรอบตัวใหม่ อีกครั้ง ส่วนแผ่นเดิมนั่นให้นำไปแช่ตู้เย็นในช่องฟรีช  แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ ทำ 3ครั้ง/วัน  

ข้อดีของการประคบเย็น นอกจากจะช่วยรีดน้ำเหลือง มีผลทำให้ระบบน้ำเหลืองที่คั่งค้างในตับหรือในถุงน้ำดี เกิดการหมุนเวียนดีขึ้น จะส่งผลให้ตับฟื้นฟูได้เร็วค่ะ

วันแรก คุณปัททุมอยู่ห้อง ICU เพราะคุณหมอได้ทำการเจาะท้องเพื่อระบายน้ำออก รวมทั้งคุณหมอได้สวนสายปัสสาวะ แต่เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงมาก  จึงขอคุณหมอกลับบ้าน และหลังจากนั่นได้ทำตามขั้นตอนและวิธีการดูแลฟื้นฟูตับเร่งด่วนไป 2 วัน

หลังจากนั้น 10 วัน ไปพบคุณหมอตรวจร่างกาย คุณหมอพบว่าอาการต่างๆดีขึ้นจนคุณหมอแปลกใจ อาการดีขึ้นผลการตรวจค่าตับดีขึ้นอย่างมาก

รายละเอียดเพิ่มเติมของการประคบเจลเย็น

• วิธีการประคบเจลเย็น เมื่อเกิดอาการท้องบวม ให้ทำการขันเชนาะโดยใช้ผ้ายางยืด มาพันรอบท้องแล้ว เสร็จแลวทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นค่อยทำการคลายออก สลับกับการประคบเจลเย็น 3 ครั้ง/ 1 วัน
• วิธีการขันเชนาะเมื่อขาบวม ขันเชนาะโดยใช้ผ้ายางยืดพันขั้นแต่ข้อเท้าไปจนถึงโคนขา หลังจากนั้นทิ้งไว้ประมาณ  30 นาที แล้วค่อยคลายออก ทำอย่างนี้ประมาณ 3 ครั้ง / วัน

?รายละเอียดเพิ่มเติมการประคบเย็น มีดังนี้

ให้นำเจลเย็นไปแช่ช่องฟรีซประมาณ 2 ชม. หลังจากนำเจลเย็นมาแนบลำตัวแนวสะดือข้างละ 3 แผ่น ข้างหลัง 3 แผ่น ใช้สายรัดให้แนบลำตัว ประคบไว้ประมาณ 30 นาที  เมื่อหายเย็นแล้วให้ไปแช่เย็นใหม่อีกครั้ง  ทำตัวละ 6 รอบ จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน และอาการดีขึ้นตามลำดับ

ผลจากการประคบเจลเย็น มีดังนี้

เบื้องต้นของการประคบเจลเย็นสำหรับท่านที่ทำครั้งอาจจะรู้สึกเย็นจัดมากถึงขั้นเย็นเจี๊ยบ ให้ท่านนำผ้าบางๆมารองผิวหนังก่อนได้ เมื่อใดก็ตามที่ความเย็นเข้าไปกระทบกับ ตับ-ไต-ถุงน้ำดี จะมีผลให้ไข่มันที่เกาะตามอวัยวะดังกล่าวๆ ค่อยๆหลุดออกมา ยิ่งเพิ่มการประคบเย็นต่อวันมากเท่าไรก็ยิ่งได้ผลเร็วขึ้นมากเท่านั้น เพราะไขมันเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบน้ำเหลืองภายในร่างกายเรานันเอง ซึ่งร่างกายของเราจะขับถ่ายออกมาในรูปแบบของการขับถ่าย ซึ่งจะส่งผลให้ระบบการไหลเวียนของน้ำเหลืองดีขึ้น

ข้อสังเกต 

เมื่อผู้ป่วยสามารถปัสสาวะและอุจจาระได้มากกว่าเดิมหรือมากกว่าปกติ แสดงว่าระบบการทำงานของตับและทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง 

1. กำลังใจผู้ป่วยจากญาติๆ หรือบุคคลใกล้ชิด นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ต่อคนไข้เพราะเขาจะมองว่าเขายังมีค่ากับบุคคลอันเป็นที่รัก ญาติต้องพูดและคอยให้กำลังใจตลอดได้ยิ่งดีมากๆค่ะ 
2. ความเครียด คนไข้ทุกคนเวลาที่เป็นโรคอะไรก็ตามมักจะมีความเครียดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นจะต้องหาแนวทางในการดำรงชีวิตหรืออาจจะหาทางคลายเครียดด้วยวิธีต่างๆ เช่น อ่านหนังสือ หรือหาเพื่อนชวนคุยหรือทำงานอดิเรกเบาๆ เป็นต้น
3. คนไข้บางรายก็เข้าไปทางพุทธศาสนา เช่น สวดมนต์ ฝึกนั่งสมาธิ หรือใส่บาตร สิ่งเหล่าจะช่วยให้คนไข้มีความสุข แล้วความสบายใจก็จะตามมา ความเครียดจะลดลง แนวทางของพุทธศาสนาจะช่วยให้คนไข้เรียนรู้วิธีการคลายความเครียดโดยอัตโนมัติ
4. วินัย คำว่าวินัยในที่นี่หมายถึง คนไข้จะต้องมีวินัยต่อตนเอง เช่นต้องทานยาให้ตรงเวลา หมั่นทำตามที่คุณหมอแนะนำหรือประคบเจลเย็นให้ได้ตามที่แนะนำเป็นต้นคะ

ทั้งหมดที่กล่าวมาคุณปัททุมได้ปฏิบัติจนอาการดังกล่าวดีขึ้นมาก

ส่วนประกอบของผลิตนั้นสำคัญมากเรามาดูกันค่ะว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง

สาเหตุหลักของการเกิดมะเร็ง มาจากทานอาหาร มีอะไรบ้างเรามาดูกันค่ะ 

1. มะเร็งโพรงจมูก ควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวก ปลาเค็มและเนื้อเค็ม เนื่องจากมีโซเดียมสูงนั่นเอง ผู้ป่วยมะเร็งชนิดนี้ ชอบรับประทานอาหารจำพวกนี้ในปริมาณมากๆ ตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งโซเดียมเป็นแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย เพราะมีหน้าที่ควบคุมความสมดุลของเหลวภายในร่างกายนั่นเองและช่วยรักษาระดับความดันของโลหิต นอกจากนี้ยังช่วยในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ รวมถึงกล้ามเนื้อหัวใจ โดยปกติแล้วโซเดียมจะมีในอาหารเกือบทุกชนิด เช่น อาหารจากธรรมชาติ เนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ อาหารแปรรูป และผงชูรส เป็นต้น

7  สัญญาณอันตราย ของโรค "มะเร็งลำไส้"

ถ่ายมีเลือดปน

ปวดถ่ายอุจจาระบ่อยมากขึ้นกว่าปกติ

คลำพบก้อนในช่องท้อง

เบื่ออาหารและน้ำหนักลด

รู้สึกปวดเบ่งบริเวณทวารหนักตลอดเวลา

มีภาวะซีด-อ่อนเพลีย

ปวดท้องรุนแรงแต่ไม่ถ่ายหรือผายลม

ท้องผูกรื้อรังมีโอกาสเสี่ยงสูง เป็นมะเร็งลำไส้ มากกว่าคนทั่วไปถึง 1.78 เท่า